กินทุเรียนอย่างไรไม่ให้อ้วน ?
แลทานอย่างไรจึงจะไม่อ้วน อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ก็ได้แนะนำว่า ถ้าหากสะกดใจจากทุเรียนไม่ได้จริง ๆ ก็ควรทำตามนี้ลดอาหารมื้อหลักประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน ให้น้อยลง หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มันจัด หวานจัด ในวันที่ทานทุเรียน http://winne.ws/n15785
กินทุเรียนได้แบบนี้ ก็ไม่ต้องกลัวอ้วนแล้ว
ก่อนอื่นมาดูข้อมูลทางโภชนาการของทุเรียนกันก่อน ทุเรียน 2 เม็ดขนาดกลาง มีน้ำหนักเฉพาะเนื้อประมาณ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 187 กิโลแคลอรี่ ให้ไขมัน 4.1 กรัม โปรตีน 2.5 กรัม แคลเซียม 18 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม เหล็ก 1 มิลลิกรัม และวิตามินเอ 22 มิลลิกรัม
ทั้งนี้ ทุเรียนยังมีประโยชน์ในด้านการฆ่าเชื้อ เพราะกำมะถันในเนื้อทุเรียนเปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะอ่อน ๆ แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี-หนองแห้ง มีฤทธิ์ขับพยาธิ กากใยในเนื้อเป็นยาระบาย ช่วยขับล้างลำไส้ ดังนั้น หากทานอย่างเหมาะสม ก็เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพได้เหมือนกัน แต่ถ้าทานมากเกินไป เช่น ทานครั้งละ 2-3 พู เท่ากับ 4-6 เม็ด หรือเกือบครึ่งลูก แบบนี้รับไปเต็ม ๆ 400 กิโลแคลอรี่ พอ ๆ กับทานข้าว 5 ทัพพี หรือดื่มน้ำอัดลม 2 กระป๋องเลยทีเดียว
แล้วจะทานอย่างไรจึงจะเหมาะสมล่ะ? เรื่องนี้ อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ก็ได้แนะนำว่า ถ้าหากสะกดใจจากทุเรียนไม่ได้จริง ๆ ก็ควรทำตามนี้
ลดอาหารมื้อหลักประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน ให้น้อยลง
หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มันจัด หวานจัด ในวันที่ทานทุเรียน
ออกกำลังกายอย่างสม่้ำเสมอ เพื่อเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินที่ได้จากการทานทุเรียน
นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยว่า
ห้ามทานทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทุเรียนมีสารกำมะถันอยู่มาก ซึ่งเป็นสารที่ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ สารนี้จะเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว ทำให้เมาเร็ว ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจ เกิดอาการร้อนในได้
การทานมังคุดตามทุเรียน ยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยแก้ร้อนในได้จริงหรือไม่ แต่สามารถทานได้ โดยเชื่อว่าคนรุ่นเก่าต้องการให้คนกินผลไม้หลากหลายชนิด
ผู้ป่วยโรคประจำตัว อย่าง เบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ต้องระวังการทานทุเรียน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยสามารถทานได้ แต่ต้องทานในปริมาณที่น้อยกว่าคนปกติ
ผักผลไม้ฤทธิ์เย็น
และอย่างที่ทราบว่าทุเรียนมีกำมะถันสูง กินเข้าไปทำให้ร้อนในได้ เลยมีวิธีแก้ร้อนในจากทุเรียนมาฝากคนชอบทานกันด้วย ตามนี้เลย
ทานอาหารธาตุเย็นลงไปเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย เช่น อาหารที่มีรสจืด เปรี้ยว และขม หรือผักผลไม้ที่มีน้ำมาก น้ำตาลต่ำ เช่น มะระ สะเดา แตงโม บวบ รากบัว มะนาว ส้ม มังคุด เป็นต้น
ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ หรือชงน้ำเกลือเจือจางดื่มสักแก้ว
ทานผักสดให้มากขึ้น
ทานผลไม้ที่มีน้ำเยอะ เช่น แตงโม แตงล้าน หรือผลไม้รสเปรี้ยวหรือหวานอมเปรี้ยว เช่น ส้ม สับปะรด มะนาวให้มากขึ้น
ดื่มน้ำสมุนไพรที่มีฤทธิ์ช่วยแก้ร้อนใน เช่น น้ำเก๊กฮวย น้ำหล่อฮั่งก้วย น้ำรากบัว น้ำมะนาว น้ำใบบัวบก น้ำใบเตย เฉาก๊วย
ถ้ารู้จักกินทุเรียนแบบพอหอมปากหอมคอให้หายอยาก ก็ไม่ต้องกลัวว่าราชาผลไม้จะทำให้เราอ้วนได้แล้ว
ขอบคุณเพจนานาสาระเพื่อสุขภาพ
ภาพจากwww.google.co.th