อาการหนาวใน สัญญาณอันตรายถ้าปล่อยไว้ไม่รีบรักษา

หนาวง่ายเกินไป หรือที่เรียกว่า ขี้หนาว แม้จะอยู่ในสถานที่มีคนอื่นอยู่ด้วย ในอุณหภูมิเท่ากัน ก็รู้สึกหนาวมากกว่าใคร บางครั้งจนทนไม่ไหว หนาวเหน็บไปถึงกระดูก เกิดจากสาเหตุอะไร เป็นอาการป่วยหรือเปล่า หรือเป็นอะไรกันแน่ http://winne.ws/n20820

1.8 แสน ผู้เข้าชม
อาการหนาวใน สัญญาณอันตรายถ้าปล่อยไว้ไม่รีบรักษา

อาการหนาวง่าย หนาวเกินไป แม้อุณหภูมิไม่ได้ต่ำจนเกินไปและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้หนาวมากมาย แล้วต้องรักษาอย่างไร

อาการหนาวจากสาเหตุ

1. เลือดจาง เลือดน้อย


ด้วยภาวะที่ร่างกายขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง มีหน้าที่ช่วยขนส่งออกซิเจนเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง และนำพาความร้อนและสารอาหารที่สำคัญเข้าสู่กระบวนการทำงานของเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า หากขาดธาตุเหล็กไป การทำงานดังกล่าวไม่เต็มประสิทธิภาพ ความอบอุ่นในร่างกายก็ลดน้อยลงไปด้วย

2. ผอมมากเกินไป

น้ำหนักที่ต่ำกว่ามาตรฐาน อาจส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถสร้างคามอบอุ่นได้อย่างเพียงพอ ความร้อนของระบบเผาผลาญน้อยลงจากการทานอาหารน้อย อีกทั้งในคนผอมมากๆ ร่างกายขาดไขมันที่จำเป็นต่อการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย

3.ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ


อาการหนาวเป็นพักๆ ร่วมด้วยผมเริ่มบาง ผิวแห้งมากขึ้น อาการอ่อนเพลีย อาจเข้าข่ายภาวะผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง ความร้อนในร่างกายจึงลดน้อยลงไปด้วย

4. ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี


โดยเฉพาะในคนที่มักจะมือเย็นเท้าเย็นบ่อยๆ อาจเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายของคุณทำงานไม่ปกติ ทำให้ไม่สามารถไหลเวียนเลือดได้สะดวก ไม่ทั่วทั้งร่างกาย หรืออาจจะมีภาวะของโรคหลอดเลือดอุดตันตามตำแหน่งต่างๆ

5. โรคเรย์นอยด์ (Raynaud’s Disease)

ซึ่งเป็นสาเหตุให้เส้นเลือดบริเวณมือตีบ ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่ดี ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วมือ ร่วมกับอาการนิ้วมือนิ้วเท้าเย็นตามมาด้วย

6. พักผ่อนไม่เพียงพอ

ยิ่งคุณนอนหลับได้ไม่เพียงพอ และยาวนานเท่าใด ยิ่งสะสมให้สมองรวมไปถึงระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานผิดปกติไปมากเท่านั้น ซึ่งก็นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง รู้สึกหนาวได้ง่ายๆ

อาการหนาวใน สัญญาณอันตรายถ้าปล่อยไว้ไม่รีบรักษา

7. ดื่มน้ำน้อยเกินไป

น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติ เมื่อร่างกายไม่ได้รับน้ำอย่างเพียงพออาจเกิดได้ทั้งภาวะแปรปรวน ร้อนจัดและเย็นจัด และการขาดน้ำที่จำเป็นต่อระบบเผาผลาญ

8. ร่างกายขาดวิตามินบี 12

วิตามินบี 12 มีหน้าที่สำคัญเหมือนธาตุเหล็ก ในเรื่องช่วยลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งถ้าหลอดเลือดแดงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ การไหลเวียนของเลือดก็จะติดขัด จึงทำให้ร่างกายหนาวเย็นได้ง่ายๆ

9. ผู้หญิงมักหนาวได้ง่ายมากกว่าผู้ชาย

ในเรื่องของฮอร์โมน และกลไกร่างกายของผู้หญิง ต้องคงความสมดุลของการไหลเวียนเลือดในสมอง และหัวใจอย่างเต็มที่ การไหลเวียนเลือดในส่วนประสาทมือและเท้าจึงถูกลดความสำคัญลงไป เป็นเหตุให้รู้สึกหนาวเย็นที่มือและเท้าเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาท

10. สัญญาณโรคเบาหวาน

ด้วยอาการปลายประสาทอักเสบที่อาจเกิดได้ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน จะส่งผลให้มือและเท้าของคุณไวต่อสิ่งเร้าและการสัมผัส โดยเฉพาะอากาศหนาว ร่วมด้วยอาการปวดปัสสาวะบ่อยๆ อ่อนเพลีย และรู้สึกคอแห้งถี่ขึ้น สัญญาณเหล่านี้อาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคเบาหวาน ต้องรีบไปพบแพทย์ด่วน

11. กล้ามเนื้ออ่อนแอเกินไป

เพราะกล้ามเนื้อเป็นอวัยวะที่มีการเผาผลาญมากที่สุดและมีการใช้กลูโคสมากที่สุดนั่นเอง จึงมีหน้าที่สำคัญช่วยรักษาความอบอุ่นของร่างกายได้ด้วย

12.หนาวสั่นในหญิงหลังคลอด

หลังคลอดฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดลง และกลไกของร่างกายจะกำจัดน้ำออกด้วย ส่งผลให้ร่างกายมีภาวะขาดน้ำ และเกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในร่างกาย เมื่อร่างกายขาดน้ำมาก จะมีไข้และทำให้เกิดอาการหนาวสั่นตามมาได้

อาการหนาวใน สัญญาณอันตรายถ้าปล่อยไว้ไม่รีบรักษา

วิธีป้องกันและรักษา

แนวทางคือการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สุขภาพดีเสมอ และรักษาได้จากสาเหตุที่เกิดขึ้นค่ะ

1. บำรุงร่างกายด้วยอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เลือกทานไขมันดีจากพืช วิตามินบี12 ก็จำเป็น และหากคุณมีภาวะเลือดจาง ต้องเน้นอาหารประเภทธาตุเหล็กสูง

2. รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

4. พักผ่อนอย่างเพียงพอ

5. ดื่มน้ำให้ได้มากกว่า 8 แก้วต่อวัน

6. หากเกิดอาการหนาวสั่นที่ผิดปกติ หรือเข้าข่ายอาการของโรคร้าย ควรเข้าพบแพทย์

อาการหนาวใน สัญญาณอันตรายถ้าปล่อยไว้ไม่รีบรักษา

เคล็ดลับ

– ที่สำคัญคือการระวัง ไม่ให้เสียสมดุลร่างกายมากเกินไป บ่อย ซ้ำๆ เลี่ยงการดื่มทานอาหารเครื่องดื่มที่มีพลังเย็นมาก หรือร้อนมาก ในปริมาณมาก

– รักษาปรับสมดุลร่างกายได้โดย เลือกทานผลไม้ที่มีทั้งความชุ่มเย็นและความเผ็ดร้อน เช่นการทานสมุนไพรช่วย เช่น บัวบก พริกไทย

– หากอาการหนาวง่ายของคุณเกิดจากสาเหตุใดบ้างนั้น ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และรักษาร่างกายให้สุขภาพดีเสมอ ร่างกายจะได้มีความอบอุ่น ไม่รู้สึกหนาวง่ายๆ อีกต่อไปค่ะ

– ที่สำคัญคือการระวัง ไม่ให้เสียสมดุลร่างกายมากเกินไป บ่อย ซ้ำๆ เลี่ยงการดื่มทานอาหารเครื่องดื่มที่มีพลังเย็นมาก หรือร้อนมาก ในปริมาณมาก

– รักษาปรับสมดุลร่างกายได้โดย เลือกทานผลไม้ที่มีทั้งความชุ่มเย็นและความเผ็ดร้อน เช่นการทานสมุนไพรช่วย เช่น บัวบก พริกไทย

หากอาการหนาวง่ายของคุณเกิดจากสาเหตุใดบ้างนั้น ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และรักษาร่างกายให้สุขภาพดีเสมอ ร่างกายจะได้มีความอบอุ่น ไม่รู้สึกหนาวง่ายๆ อีกต่อไปค่ะ


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

www.google.co.th

https://timeline.line.me/post/_dXOOb4HfD9vY4RGywQ3M_Cac_KgaPSlOgQVQpVo/1151176547706036328

แชร์