ยิ่งอดยิ่งดี !!!

ยิ่งอดยิ่งสุขภาพดี แก่ช้าลง อายุยืนขึ้น แถมสมองดี http://winne.ws/v26732

8.0 พัน ผู้เข้าชม

คนเรายิ่งอดยิ่งดี ยิ่งอดทนได้ก็ยิ่งดี เพราะการอดทนเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของการดำเนินชีวิตเพื่อให้คนเรามีความเข้มแข็ง สามารถปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสังคมได้ อีกทั้งทำให้คนเราสามารถพัฒนาตนเอง เพื่อไปสู่เป้าหมายสูงสุดในชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้

เช่นกัน การยิ่งอดยิ่งดี อดทน อดกลั้น รวมไปถึงการอดอาหารด้วย หรือกินอาหารให้น้อยลง อดจนกระทั่งหิว จนท้องร้องยิ่งดี กินแบบพระก็ดี เหลือมื้อเดียวยิ่งดี และนี่คือคำแนะนำและหลักปฏิบัติดีๆ จากคุณหมอโยะชิโนะริ นะงุโมะที่ได้พิสูจน์ด้วยตัวของท่านเองแล้ว มีหลักการ 4 ข้อ ซึ่งสรุปจากการรีวิวหนังสือโดยคุณหนูดี วนิษา เรซ ดังต่อไปนี้ 

1. นอนให้ถูกสุขลักษณะ

คือการเข้านอนเร็วและตื่นแต่เช้า เวลานาทีทอง 4 ชั่วโมง คือ 4 ทุ่ม ถึง ตี 2 เป็นช่วงที่โกรทฮอร์โมนถูกหลั่งออกมา เป็นฮอร์โมนที่ช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมทำให้กลับเป็นหนุ่มสาว ส่วนเด็ก ๆ ก็มีผลทำให้ตัวสูงเร็ว ร่างกายแข็งแรง เจริญเติบโตสมวัย ส่วนผู้ที่ไม่สามารถนอนตั้งแต่ 4 ทุ่มได้ ก็ให้ยึดหลักให้นอนก่อนเที่ยงคืนตื่นก่อนสว่าง (ประมาณ เที่ยงคืน ถึง ตี 5 ครึ่ง) อย่าลืมปิดไฟก่อนนอน ตื่นมาก็ให้อาบแสงอาทิตย์ยามเช้าด้วย

2. ปล่อยให้ท้องร้อง 2 มื้อ ทานมื้อเดียว

การปล่อยให้ท้องร้องหมายความว่าไม่มีอาหารในกระเพาะอาหาร ร่างกายของเรามีฮอร์โมนชื่อเกรลินจะแจ้งไปยังสมองว่าหิว แต่เพราะไม่มีอาหาร สมองจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาเพื่อสลายไขมันและสร้างน้ำตาล (ไกลโคเจน) ให้ได้ไปใช้งาน ช่วงท้องร้องเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเอง และยังมียีนเซอร์ทูอิน หรือ ยีนต่ออายุขัย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ซึ่งจะทำงานก็ต่อเมื่อเรารู้สึกหิว นอกจากนี้ยังมีอะดิโพเนคทิน หรือ ฮอร์โมนมหัศจรรย์ ทำความสะอาดภายในหลอดเลือด เป็นตัวชี้วัดความอ่อนเยาว์ของหลอดเลือด จุดเด่นคือถ้าเราผอมลง มันจะยิ่งทำงานมากขึ้น

การทานอาหารแบบปล่อยให้ท้องร้องคือ ให้ท้องร้องไป 2 มื้อ แล้วให้ทานมื้อเดียว มื้อหลักคือมื้อเย็น ประกอบด้วย ข้าว 1 กับข้าว 1 น้ำซุป 1 ขนาดจานหรือชามเด็ก กินให้อิ่มประมาณ 80% ไม่ใช่อิ่ม100% ระหว่างวันถ้าหิวก็ดื่มแค่น้ำเปล่าหรือชาสมุนไพร ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ แครกเกอร์ หรือ ผลไม้ ให้เรามีสติในการทาน ให้เราชินกับความหิว 

3. ออกกำลังกาย

การเดินเร็วเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด ด้วยการยืดอก ยืดหลังให้ตรง ตามองไปข้างหน้า ห้ามก้มหน้ามองพื้น กำมือ งอข้อศอกเล็กน้อย และแกว่งแขนเร็ว ๆ แขม่วพุง ขาเหยียดตรง ก้าวให้สุดขา

ถ้าอยู่บนรถโดยสาร ให้พยายามยืนทรงตัว ยืดอกขึ้นแต่ไม่เกร็ง แขม่วพุง ยืนกางขาให้มั่นคง รักษาสมดุลด้วยเท้าทั้ง 2 ข้าง ให้จินตนาการว่ากำลังเล่นกระดานโต้คลื่น

การทำความสะอาดเช็ดถูบ้านก็นับเป็นการออกกำลังกายได้เช่นกัน โดยให้เหยียดแขนตรงให้สุดแขน อย่างอแขน

4. คำนึงถึงทรัพยากรอาหารและสิ่งแวดล้อม

เลือกทานอาหารให้หมด กินให้ครบทุกส่วน เช่น ทานปลาก็ให้เลือกทานตัวเล็กเท่าฝ่ามือ ทานทุกส่วน ทานทั้งตัว ทานผักก็ทานทั้งใบทั้งราก ผลไม้ก็กินทั้งเปลือก ไม่กินทิ้งกินขว้าง นอกจากไม่สิ้นเปลืองแล้วยังไม่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม

หลายท่านอ่านถึงตรงนี้อาจคิดว่า บางอย่างอาจทำไม่ได้หรือไม่อยากทำ ก็ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมเฉพาะบุคคล เช่น บางท่านอาจยึดมื้อหลักเป็นมื้อเช้าก็ได้ หรือมื้อกลางวันก็ได้ตามความเหมาะสม การเดินเร็วก้าวขาให้ยาวที่สุดแถมแกว่งแขนเร็ว ๆ อีก อาจดูไม่เหมาะสมในบางสถานที่ ก็ปรับลดดีกรีลงมาหน่อย เป็นต้น

กล่าวโดยสรุป การทานน้อยก็ใช้ทรัพยากรน้อย ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมก็น้อยไปในตัว ฉะนั้น อด ๆ เข้าไว้ ยิ่งอดยิ่งดี เพราะไม่เพียงทำให้เราได้ประหยัด สมองดี สุขภาพดี แก่ช้า แล้วยังหุ่นดีอีกด้วย

 

ขอขอบคุณข้อมูล: Noodee Brainworks

ขอขอบคุณรูปภาพ: อาหาร

แชร์