จริงๆ แล้วการเก็บรังนกนั้นมักจะทำหลังจากที่นกนางแอ่นทิ้งรังไปแล้ว เพราะด้วยพฤติกรรมของนกที่่จะสร้างรังอยู่ ณ จุดเดิมเสมอนั้น  ทำให้นกจะบ้วนน้ำลายทับรังเดิมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำหนักของรังเพิ่มขึ้น และยึดเกาะผนังถ้ำไม่ไหวทำให้ตกลงไปตายยกครอบครัว ดังนั้นการเก็บรังนกจึงไม่ใช่อาหารบาปเพราะนอกจากจะไม่ทำร้ายนกแล้ว การเก็บรังนกยังเป็นการช่วยนกเพื่อไม่ให้รังตกไข่แตก ตายยกครัวเรือนอีกด้วย

นกนางแอ่นทำรังในถ้ำ

นอกจากนี้รังนกสีแดงที่เห็นกันนั้นเกิดจากแร่ธาตุตามผนังถ้ำซึมเข้ามาในรังนกจึงเกิดภาพอย่างที่เห็น ไม่แน่นะที่เรามีความเชื่อว่ารังนกสีแดง คือสีเลือดของนกมาช้านานนี่ เราอาจจะโดนต้มมานานแล้วก็ได้  (อันนี้ผู้เขียนคิดเอง เพราะพ่อค้าแม่ค้าคนกลาง บางคนหัวใส หาวิธีอัพราคาสินค้า แบบให้ดูมีเหตุผล)

นกนางแอ่นทำรังในบ้าน

ธรรมชาติของนกนางแอ่น

- มีพฤติกรรมสร้างรังทดแทน (re-nest) และสร้างในที่เดิมกับรังที่ถูกเก็บไป ถ้าไม่เก็บ นกก็จะสร้างทับรังเดิม

- การออกหากินและกลับรังเป็นเวลา เช่น เวลากลับรัง มักได้แก่ 11.30 14.00 17.30 หรือ 18.30 แล้วแต่ท้องถิ่น หรือฤดูกาล

- บินตลอดเวลาไม่เกาะที่ใดจนกว่าจะกลับถึงรัง

- บินในที่มืดได้คล่องแคล่ว แม่นยำ จากการส่งเสียงสะท้อนนำทาง (Echolocation)

- รักเดียวใจเดียว จะครองคู่กันไปตลอด

- เป็นสัตว์สังคม ดำรงชีวิตแบบรวมหมู่ เป็นกลุ่มขนาดใหญ่ มีจ่าฝูงด้วย

- บินด้วยความเร็วสูง 89-100 กม./ชม.

- อายุทั่วไป 6-7 ปี อายุ 3 ปีจะสร้างรังได้ดีที่สุด

- จะผสมพันธุ์กันในอากาศ ทำรังปีละ 3 รอบ ออกไข่รอบละ 2 ฟอง

- วันที่มีแดดจ้า จะหากินไกล วันฟ้ามืดฝนตกจะบินใกล้ ฝนตกหนักจะไม่ออกหากิน

 จริงๆ แล้วผู้เขียนก็ไม่สันทัดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องรังนกเท่าไรนัก แต่จากการสังเกตุ และได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านรังนก ก็คิดว่า ไม่มีเหตุผลที่เจ้าของบ้านรังนกจะให้นกต้องทำรังจนตาย เพราะถ้าปล่อยให้นกเพิ่มจำนวนมากขึ้น  นั่นหมายถึงปริมาณของรังนกที่จะได้มากขึ้นด้วยในทุกๆ ปี และ ถ้าไปรบกวนนกมันมากๆ มันก็มีสิทธิ์ย้ายหนีได้เหมือนกัน  สุดท้ายนี้สิ่งที่ผู้เขียนจะบอกนั้นไม่ใช่แค่เรื่องรังนกนางแอ่นเพียงอย่างเดียว แต่อยากจะบอกว่าอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งใดๆที่เขาบอกต่อๆ หรือเล่าอ้างกันมาง่ายๆ หากคิดจะเชื่อหรือปักใจในอะไรแล้วขอให้หาข้อมูลให้ดีเสียก่อน  สุดท้ายแล้วส่วนจะจริงบ้างบางส่วน หรือไม่เชื่อยังไง  คิดว่าผู้อ่านน่าจะพิจารณาเองได้  

ขอบคุณเรื่อง และภาพบางส่วนจาก unigang.com