งูเเละพังพอนไม่ถูกกัน..เพราะสิ่งนี้
พอพูดถึงความเป็นศัตรูคู่อริระหว่างงูกับพังพอน ทำนองว่าเป็นคู่กัดที่พอฟัดพอเหวี่ยงกัน ไปติดตามความเป็นมากันได้เลยในนกุลชาดก http://winne.ws/n5442
นกุลชาดก ว่าด้วยเรื่องอย่าวางใจมิตร
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถีทรงปรารภการทะเลาะกันของอำมาตย์ ๒ คน ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วพระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤาษีบำเพ็ญเพียรสมาบัติอยู่ป่าหิมพานต์ มีพังพอนตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในจอมปลวกที่จงกรมของฤาษีนั้น และมีงูตัวหนึ่งอาศัยอยู่ที่โคนไม้ต้นหนึ่งใกล้จอมปลวกนั้นงูและพังพอนไม่ถูกกันเป็นคู่อริกันตลอดกาล
ฤาษีเห็นสัตว์ทั้งสองทะเลาะกันจึงกล่าวถึงโทษของการทะเลาะกันและอานิสงส์ในการเจริญเมตตาแก่สัตว์ทั้งสองจนทำให้งูและพังพอนเลิกทะเลาะกันกลับมาเป็นมิตรกันในที่สุดถึงกระนั้นพังพอนก็ไม่ไว้ใจงูเวลางูออกไปข้างนอกพังพอนก็จะนอนอ้าปากหันหัวออกนอกโพรง แม้หลับก็ยังนอนอ้าปากอยู่
ฤาษีเห็นพฤติกรรมเช่นนั้นของมันจึงถามมันว่า "พังพอน..เจ้าได้ทำมิตรภาพกับงูผู้เป็นศัตรูแล้วมิใช่หรือเหตุไฉนจึงนอนแยกเขี้ยวอยู่อีกเล่า ภัยที่ไหนจะมาถึงตัวเจ้าอีกละ"
พังพอนตอบว่า "พระคุณเจ้าเราไม่ควรดูหมิ่นศัตรู ควรระแวงไว้เสมอ"
แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
"บุคคลพึงระแวงภัยในศัตรูไว้ก่อน แม้ในมิตรก็ไม่ควรไว้วางใจภัยที่เกิดขึ้นจากมิตรย่อมกัดกร่อนจนถึงโคนราก"
ฤาษีจึงกล่าวสอนพูดให้พังพอนเลิกระแวงว่า "เจ้าอย่ากลัวไปเลยเราได้ทำให้งูไม่ทำร้ายเจ้าแล้ว เจ้าเลิกระแวงได้แล้วละ"งูและพังพอนนั้นก็เป็นอยู่อย่างสันติจนตราบสิ้นชีวิต
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :อยู่ร่วมกันไม่ควรทะเลาะกัน เพราะจะนำมาซึ่งความระแวงกัน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.dhammathai.org/