“โครงการคลินิกแก้หนี้” เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินเบ็ดเสร็จในที่เดียว
เชิญชวนลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระ เข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้” เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินเบ็ดเสร็จในที่เดียว http://winne.ws/n29078
เชิญชวนลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระ เข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้” เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินเบ็ดเสร็จในที่เดียว
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) จัดให้มีโครงการคลินิกแก้หนี้ (โครงการ) เพื่อให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้เบ็ดเสร็จในที่เดียว ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน และได้ปรับเกณฑ์การช่วยเหลือลูกหนี้ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ
แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยโดยรวมจะปรับดีขึ้น แต่ครัวเรือนบางส่วนยังเปราะบางจากค่าครองชีพและภาระหนี้ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันและมีเจ้าหนี้หลายราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังต้องการความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ จึงปรับเกณฑ์คุณสมบัติให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วันขึ้นไป สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จากเดิมที่ต้องมีสถานะเป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เท่านั้น
โครงการได้เพิ่มทางเลือกแผนการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ในโครงการที่เริ่มมีปัญหาในการผ่อนชำระ ซึ่งหากผิดนัดชำระซ้ำจะต้องกลับไปดำเนินการแก้ไขหนี้โดยตรงกับเจ้าหนี้ โดยโครงการจะพิจารณาเหตุผลความจำเป็น เพื่อแนะนำแผนการชำระหนี้ใหม่ที่เหมาะสมให้กับลูกหนี้เป็นรายกรณี เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ต่อเนื่องจนปลดหนี้ได้ในที่สุด
สำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการมี ดังนี้
1.เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 70 ปี
2.เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ
3.เป็นหนี้เสีย (NPL) ค้างชำระมากกว่า 120 วัน (ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือนปัจจุบันต้องมีสถานะค้างชำระตั้งแต่ 121-150 วันขึ้นไป)
4.หนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท
5.ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
ประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูล หรือสมัครผ่านเว็บไซต์ (www.คลินิกแก้หนี้.com) LINE (@debtclinicbysam) และ Facebook (คลินิกแก้หนี้ by SAM) รวมทั้ง Call Center โทร. 1443 ได้ทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.
ขอบคุณภาพและข้อมูลข่าว : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์