เหตุเกิดในเหมืองแร่
..ในสภาพคับขันเช่นนี้ สภาพจิตใจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ห้าคนที่ไม่ทราบสภาพความจริง ย่อมมีกำลังใจมากกว่าคนที่หก และคนที่หกที่มีน้ำใจต่อเพื่อนๆ เป็นคนเดียวที่แบกรับรู้ความจริงไว้แต่เพียงผู้เดียว.. http://winne.ws/n26542
เรื่องเล่าต่อไปนี้ ว่ากันว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่แอฟริกา คนงานหกคนกำลังทำงานอยู่ในเหมืองแร่ ทันใดนั้น เหมืองถล่ม ทางออกถูกปิดกั้น ไม่สามารถติดต่อโลกภายนอกได้
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนก ต่างรู้ชะตากรรมของตนเอง ด้วยประสบการณ์ ทุกคนรู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดจากนี้ไป ก็คือการขาดแคลนออกซิเจน อากาศในอุโมงค์แคบๆห้องนี้คงอยู่ได้สักสามชั่วโมง อย่างมากก็ไม่เกินสามชั่วโมงครึ่ง
ผู้คนที่อยู่ข้างนอกรู้แล้วว่าพวกเขาถูกปิดกั้นอยู่ในนี้ มีอยู่ทางเดียวที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้ ก็คือการเจาะอุโมงค์เข้าไปหาพวกเขาโดยด่วน แล้วก่อนที่จะไม่มีอากาศให้หายใจ ผู้คนข้างนอกจะสามารถกรุยทางเข้าไปช่วยพวกเขาทันหรือไม่
พวกเขาตัดสินใจที่จะต้องช่วยกันถนอมการใช้อากาศที่เหลืออย่างมีคุณค่าที่สุด ด้วยการพยายามไม่ให้มีการเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อประหยัดพลังงาน ปิดกระบอกไฟฉายของทุกๆคน แล้วทุกคนก็นอนราบกับพื้น
ท่ามกลางความมืดมิด ทุกคนเงียบ เวลาค่อยๆผ่านไป สิ่งที่ทุกคนอยากรู้ก็คือ เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ทั้งหกคนนี้ มีเพียงคนเดียวที่มีนาฬิกา ในสภาพเช่นนี้ เวลามักจะผ่านไปช้ามาก จึงมีคำถามจากแทบทุกคนแบบค่อนข้างถี่ ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว ยิ่งถามก็ยิ่งเพิ่มความกังวลให้ทุกคน ความหวังหมดสิ้นลงไปทุกลมหายใจ
เมื่อความกังวลเพิ่มขึ้น การหายใจก็เริ่มแรงขึ้น นั่นคือการเร่งให้พวกเขาเดินสู่จุดหายนะให้ไวขึ้น สุดท้ายก็เลยตกลงกันว่า ให้คนใส่นาฬิกาคอยรายงานเวลาให้ทราบทุกๆครึ่งชั่วโมง ไม่อนุญาตให้ใครถามเรื่องเวลาอีกเป็นการส่วนตัว
ความเงียบกลับมาอีกครั้ง ครึ่งชั่วโมงผ่านไป คนใส่นาฬิกาก็รายงานว่า "ผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง" มีเสียงถอนหายใจและเสียงบ่นพึมพำแบบสิ้นหวัง บรรยากาศเต็มไปด้วยความหดหู่
คนใส่นาฬิกาตระหนักว่า การรายงานทุกครั้งของเขา จะเป็นการเพิ่มความกังวลให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการบรรเทาความทุกข์ใจของเพื่อนๆ การรายงานเวลาครั้งต่อไปของเขา เขาแอบยืดไปเป็น 45 นาที แทนที่จะเป็นครึ่งชั่วโมง
ไม่มีใครสงสัย เพราะทุกคนเชื่อเขา เมื่อการพูดปดครั้งแรกประสบความสำเร็จ การรายงานเวลาครั้งต่อไปจึงถูกยืดออกไปอีกเป็นหนึ่งชั่วโมงเต็ม เมื่อเขาประกาศเบาๆว่า "ผ่านไปแล้วอีกครึ่งชั่วโมง" ทุกคนก็จะมีคำตอบในใจว่าตนจะเหลือเวลาของชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ผู้คนที่อยู่ข้างนอกรีบเร่งขุดเจาะอุโมงค์อย่างไม่คิดชีวิต พวกเขารู้ตำแหน่งแห่งที่ของคนที่ติดอยู่ในเหมือง แต่ไม่มีใครแน่ใจว่าจะสามารถเจาะทะลุเข้าไปช่วยพวกเขาทันภายในเวลาสี่ชั่วโมง
สี่ชั่วโมงครึ่งผ่านไป พวกเขาสามารถเจาะทะลุถึงตำแหน่งเป้าหมาย สิ่งที่พวกเขาคาดคิดไว้ก็คือ คงจะได้พบศพหกศพของคนงานทั้งหมด แต่สิ่งที่ไม่ได้คาดหวังมาก่อนก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อพบว่ายังมีห้าคนที่มีชีวิตอยู่ด้วยลมหายใจที่ค่อนข้างรวยริน มีอยู่เพียงคนเดียวที่เสียชีวิต เขาผู้นั้นก็คือคนที่สวมใส่นาฬิกา
*************
ในสภาพคับขันเช่นนี้
สภาพจิตใจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
ห้าคนที่ไม่ทราบสภาพความจริง
ย่อมมีกำลังใจมากกว่าคนที่หก
และคนที่หกที่มีน้ำใจต่อเพื่อนๆ
เป็นคนเดียวที่แบกรับรู้ความจริงไว้แต่เพียงผู้เดียว ซี่งเป็นความจริงที่โหดร้าย
แต่ถ้าไม่มีน้ำใจจากคนที่หก ห้าคนที่เหลือคงไม่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้
บางครั้ง การไม่รู้ความจริงในบางเรื่อง อาจจะดีกว่าการต้องมารับรู้ความจริงที่โหดร้าย
ขอคารวะต่อผู้เสียสละด้วยดวงใจ
www.facebook.com/Flintlibrary
“ขจรศักดิ์”
แปลและเรียบเรียง