อานุภาพ การแผ่เมตตา 2

การแผ่เมตตาของผู้ที่สวดมนต์ไหว้พระ และนั่งสมาธิจนจิตมีความใสสว่างนั้น ย่อมมีพลัง และเป็นที่โปรดของเหล่าเทวดา และดวงวิญญาณทั้งหลาย http://winne.ws/n23904

2.3 พัน ผู้เข้าชม

   การแผ่เมตตาของผู้ที่สวดมนต์ไหว้พระ และนั่งสมาธิจนจิตมีความใสสว่างนั้น  ย่อมมีพลัง และเป็นที่ต้องการของเหล่าเทวดา และดวงวิญญาณทั้งหลาย  อานุภาพของการแผ่เมตตาดังกล่าวแสดงไว้ดังนี้ 

อานุภาพ การแผ่เมตตา 2ภาพ : pixabay

1.อานิสงส์จากการได้โปรดดวงจิตวิญญาณ

   ผู้ที่สวดมนต์ไหว้พระ  และนั่งสมาธิจนมีจิตที่ใสสว่างแล้ว  พวกวิญญาณเร่ร่อนจะชอบมาปรากฏให้เห็นในลักษณะต่างๆ  เพื่อมาขอส่วนบุญส่วนกุศลให้ตนได้ร่มเย็นหรือพ้นทุกข์ หรือแม้กระทั่งหลุดพ้นจากการถูกจองจำ 

  โดยปกติบทสวดมนต์จะมีความขลังอยู่ในตัวโดยเฉพาะบทพุทธบารมี ยิ่งผู้สวดมีสมาธิจิตที่ดีแล้ว พลังหรือกระแสแห่งความเมตตาจะแผ่กระจายไปได้ไกล  ประกอบกับอานุภาพของพลังจิตผู้สวดเอง เมื่อเสียงสวดไปกระทบหรือสัมผัสกับดวงจิตวิญญาณใด  พลังแห่งความเมตตา และพลานุภาพแห่งบทสวดจะกระตุ้นให้ดวงจิตวิญญาณเกิดความระลึกได้  นึกถึงบุญกุศลที่ตนเองได้เคยกระทำไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิต  และด้วยพลานุภาพแห่งพุทธคุณ ทำให้ดวงจิตที่มืดบอดมีความสว่างผ่องใสขึ้นจนหลุดพ้นจากบ่วงพันธนาการในที่สุด 

อานุภาพ การแผ่เมตตา 2ภาพ : pixabay

  โดยสภาพธรรมชาติของวิญญาณทั้งหลายนั้นพวกเขาจะถูกจำกัด หรือถูกควบคุมพื้นที่เสมือนถูกจองจำตีตรวนเหมือนนักโทษที่ติดอยู่ในคุก บางคนก็สำนึกหรือระลึกได้เอง  บางคนต้องได้รับการอบรมสั่งสอนก่อนจึงจะเกิดความสำนึกและระลึกได้  เมื่อดวงวิญญาณระลึกถึงความดี ความชั่วที่ตนได้กระทำไว้ได้แล้ว  ก็สามารถเปิดรับธรรมะได้  

   เพราะฉะนั้นการระลึกได้จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งดังที่คนโบราณได้สั่งสอนบอกต่อกันมาว่า ก่อนตายให้นึกถึงพระ  ความหมายนี้คือ  ให้ระลึกถึงคุณความดีที่ตนเองได้กระทำไว้นั่นเอง  หากสำนึกได้ในวินาทีสุดท้ายขณะใกล้ตายก็ถือว่า มีโอกาสที่จะรับรู้สัมผัสธรรมได้ (จิตเปิด)มีโอกาสหลุดพ้น(จากการจำกัดบริเวณ )ได้ 

  ยิ่งเมื่อเราแผ่เมตตาตามอีกเขาก็จะได้อานิสงส์มากยิ่งขึ้น ดวงจิตวิญญาณเหล่านั้นชุ่มเย็นเป็นสุขเสมือนเรานำน้ำที่เย็นชโลมรดให้กับผู้ที่หิวกระหายลุ่มร้อนมานานปี จนสุดท้ายก็จะสามารถหลุดพ้นไปได้การที่เราทำให้วิญญาณตกทุกข์ได้ยาก  ทุกข์ทรมาน ได้รับความสุข สว่างสดใส หรือกระทั่งหลุดพ้นไปได้นั้นนับว่าได้อานิสงส์มหาศาลทีเดียว

อานุภาพ การแผ่เมตตา 2ภาพ : pixabay

  สภาพความจริงในภพแห่งวิญญาณ  ถ้ามนุษย์มองเห็นก็จะพบว่ามีวิญญาณเร่ร่อน  หรือ สัมภเวสี จำนวนมากมายทุกหนแห่ง เช่น คนมีจิตสว่างบางคนไปนอนที่ไหนก็จะมีวิญญาณมาดึงมาปลุก ทำให้ไม่สามารถนอนได้  ปรากฏการณ์เช่นนี้ทำให้เข้าใจเป็นเบื้องต้นว่าเขามาขอส่วนบุญ เขาเห็นจิตของเราที่สว่าง  แสดงว่าเรามีบุญที่สามารถแผ่ให้กับเขาได้ อย่าตกใจ  อย่ากลัว  ให้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี วิธีปฏิบัติก็คือ สวดมนต์ แผ่เมตตาให้เขาเสีย  แล้วเราจะนอนหลับฝันดี เขาจะเฝ้าดูแลเราตลอดทั้งคืน บางทีอาจให้โชคลาภกับเราอีกด้วย

  สถานที่บางแห่งวิญญาณอยู่กันเหมือนตัวหนอน เหมือนฝูงแมลงวันยิ่งดวงวิญญาณอยู่กันมากมายเช่นนี้ผู้สวดมนต์ แผ่เมตตา ภาวนาสมาธิให้ก็จะได้อานิสงส์มากเท่าทวีคูณ การสวดมนต์ที่แท้ก็คือการแผ่เมตตานั่นเอง

  การทำจิตให้นิ่งเป็นสมาธิบ่อยๆเสมือนเราอยู่ในที่สูง อานิสงส์ที่เราสร้างบุญกุศลที่เราทำจะเปรียบเสมือนเราเทน้ำให้ไหลลงสู่เบื้องล่าง ผู้อยู่เบื้องล่างที่หิวกระหายก็จะรอรับอย่างชุ่มเย็น มีความปีติยินดี

อานุภาพ การแผ่เมตตา 2ภาพ : pixabay

2.ได้อานิสงส์จากพรเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

   เทวดาทั้งหลายโปรดปรานการฟังเสียงสวดมนต์มาก  เพราะถือเป็นพิธีกรรมแห่งพุทธที่มีมนต์ขลัง มีความศักดิ์สิทธิ์   บทสวดทุกบทมีพลังพุทธานุภาพสูงใครได้ยินได้ฟังได้ซึมซับก็จะเกิดความสว่างไสว มนุษย์ที่สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำจึงเป็นที่โปรดปรานของเทวดา  ไปที่ไหนมีเทวดาปกป้องคุ้มครอง ให้โชคให้ลาภ ให้ความมั่งมีศรีสุข  

   คนโบราณจึงย้ำหนักหนาให้ลูกหลานสวดมนต์ก่อนนอน  นี่คือความหมายที่แท้จริงของการสวดมนต์ก่อนนอน   

   เทวดาก็ต้องการสร้างบารมีของตนให้สูงยิ่งๆ ขึ้นไปเช่นกัน เมื่อเราสวดมนต์ไหว้พระ และแผ่เมตตา ทำให้เทวดาได้บารมีเพิ่ม ได้ความสว่างเพิ่ม  เทวดาก็จะอำนวยอวยพรชัยมงคลให้กับเราเป็นการตอบแทนคุณ

   ซึ่งอานุภาพแห่งการแผ่เมตตาที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้  เป็นสิ่งที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์  จึงทำให้หลายคนเกิดความไม่เชื่อคิดว่าเป็นสิ่งที่แต่งขึ้นมาเพื่อรักษาศรัทธาของพุทธศาสนิกชน  ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดสามารถพิสูจน์ได้ด้วยการหลักการปฏิบัติทางพุทธศาสตร์    มิได้เป็นอจินไตย สำหรับผู้ปฏิบัติที่เข้าถึงสภาวธรรมได้ในระดับสูง


เรียบเรียงโดย : เดอะซัน

อ้างอิง 

palungjit

แชร์