การแผ่เมตตา คือธรรมาวุธอันเลิศ !!!
ยามประสบภัยจากคนพาล คนชั่วช้า ก็ให้แผ่เมตตาไปให้เขาเหล่านั้น ยิ่งหากเป็นคนที่มีศีลมีธรรมด้วยแล้ว ศีล และเมตตาธรรมนี้ จะเป็นเกราะคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากผองภยันตรายทั้งปวงได้ ดังคำกล่าวที่ว่า “ธรรม ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” http://winne.ws/n23875
เมื่อครั้งพระพุทธองค์ได้ผจญหน้ากับช้างนาฬาคิรี ซึ่งเป็นช้างตกมันมีความทารุณร้ายกาจนั้น พระพุทธองค์ได้ทรงแผ่เมตตาให้ช้างนาฬาคิรีแทนศาสตราวุธทั้งปวง ทำให้ช้างได้สัมผัสถึงกระแสแห่งเมตตาธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า และสร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง ค่อยๆลดงวงลง และค่อยๆเยื้องกรายเข้าไปหาพระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าของพระพุทธองค์ด้วยความเลื่อมใสอย่างยิ่งดังบทสวดพุทธชัยมงคลคาถา บทที่ ๓ ได้พรรณนาพุทธคุณไว้ว่า
" นาฬาคิรึ คชวรํ อติมตฺตภูตํ
ทาวคฺคิจกฺกมสนีว สุทารุณนฺตํ
เมตฺตมฺพุเสกวิธินา ชิตวา มุนินฺโท
ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ
ด้วยเมตตานุภาพอันไม่มีประมาณของพระพุทธองค์ทำให้ช้างนั้นมีจิตชื่นชมโสมนัส ซึ่งหากเป็นมนุษย์จะได้สำเร็จเป็นพระโสดาบันแต่เนื่องจากเป็นสัตว์เดรัจฉาน ทำให้พลาดจากการได้บรรลุโลกุตตรธรรมอันยอดเยี่ยมแต่ก็เป็นอุปนิสัยติดไปในภพหน้า จากนั้นช้างได้เอางวงลูบละอองธุลีพระบาทของพระองค์แล้วพ่นลงบนกระหม่อมของตน ย่อตัวถอยออกไป ชั่วระยะที่แลเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า เดินกลับเข้าไปสู่โรงช้างตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ช้างนาฬาคิรีก็ได้ชื่อใหม่ว่า ช้างธนปาล
มหาชนเห็นเมตตานุภาพของพระผู้มีพระภาคเจ้า ต่างเกิดปีติโสมนัสพากันกล่าวสรรเสริญพระพุทธองค์ว่า
"ชาวเราเอ๋ยช่างน่าอัศจรรย์จริงหนอ คนบางพวกย่อมฝึกช้างและม้า ด้วยการใช้ท่อนไม้บ้างใช้ขอบ้าง ใช้แส้บ้าง แต่พระพุทธเจ้าทรงทรมานช้างโดยใช้เมตตาธรรม”
ดังนี้แล้ว จะเห็นว่า “เมตตาบารมี” นั้นนอกจากจะเป็น 1 ในบารมีทั้ง 10 ประการของบารมี 10 ทัศแล้ว ยังเป็นบารมีที่เราสามารถทำได้ง่ายๆโดยไม่ต้องลงทุนลงแรง แต่ให้อานุภาพได้มากมายมหาศาลอย่างไม่มีประมาณ
เพราะเหตุใด จึงได้กล่าวว่า " การแผ่เมตตาเปรียบเสมือนธรรมาวุธอันประเสริฐ "
เพราะอานุภาพของกระแสแห่งความเมตตานั้นเปรียบเสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ ที่ไปดับเพลิงแห่งความเร่าร้อนของใจผู้ที่คิดร้ายหรือมีความอิจฉาริษยา พยาบาท เมื่อคนเหล่านี้ได้สัมผัสถึงกระแสแห่งความเย็นอันเป็นทิพย์แล้ว ความเร่าร้อนแห่งไฟที่เกิดจากโทสะ และโมหะย่อมจางหายไปด้วยอานุภาพแห่งความเมตตาอันไม่มีประมาณ
ผู้ที่มีเมตตาจิต จึงเป็นผู้ที่มีจิตปรารถนาที่จะให้ผู้อื่นมีความสุข ไม่ผูกโกรธใคร ถึงจะถูกตามจองล้างถึงชีวิตก็ไม่ถือโทษไม่เคืองแค้นใคร เปี่ยมด้วยความปรานีต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อสัตว์โลกทั้งหลายถือเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมด
แม้ยามที่ต้องประสบภัยจากคนพาลคนชั่วช้า ก็ให้แผ่เมตตาไปให้เขาเหล่านั้น ยิ่งหากเป็นคนที่มีศีลมีธรรมด้วยแล้ว ศีล และเมตตาธรรมนี้ จะเป็นเกราะคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากผองภยันตรายทั้งปวงได้ดังคำกล่าวที่ว่า
“ธรรม ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม พึงชนะคนชั่วช้าด้วยความดี”
บทความโดย : เดอะซัน
อ้างอิง