แรงบันดาลใจ ตอน ผู้ชนะที่แท้จริง
ความแพ้ความชนะ ที่เกิดจากการสาดใส่กิเลสเข้าหากัน รังแต่นำมาซึ่งความทุกข์ เป็นความพ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย ผู้ชนะย่อมก่อเวร ถูกจองเวร ผู้แพ้หาทางแก้แค้นกลับคืน ฉะนั้นพึงเป็น ผู้ชนะด้วยความดีเถิด เพราะความเป็นผู้ชนะที่แท้จริง ย่อมเกิดได้ด้วยความดีเท่านั้น http://winne.ws/n23420
จงอย่าเสียใจในยามเสียทีแก่คนพาล และอย่าดีใจหากชนะใครด้วยความชั่วเพราะนั่นมิใช่ความชนะหรือความแพ้ ที่แท้จริงเป็นความแพ้ที่จะกลับชนะได้ หรือเป็นความชนะที่จะกลับพ่ายแพ้ในที่สุด
ในสมัยพุทธกาลมีสงครามระหว่างแคว้นมคธและแคว้นโกศล โดยมีเหตุจากพระเจ้าอชาตศัตรูหลงผิดเชื่อคำยุยงของพระเทวทัตจึงยึดอำนาจจากพระเจ้าพิมพิสาร พระราชบิดา แล้วกระทำปิตุฆาตทำให้พระนางเวเทหิพระราชมารดาเสียใจมาก หนีกลับไปอยู่บ้านเกิด คือ แคว้นโกศลแล้วตรอมใจตายในที่สุด พระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้เป็นพระเชษฐาพระนางเวเทหิ และเป็นพระสหายกับพระเจ้าพิมพิสารโกรธแค้นพระเจ้าอชาตศัตรูผู้เป็นหลานจึงยึดคืนแคว้นกาสีซึ่งเป็นของขวัญที่พระเจ้ามหาโกศลพระราชทานให้พระนางเวเทหิเมื่อคราวอภิเษกสมรสกับพระเจ้าพิมพิสาร
ฝ่ายพระเจ้าแผ่นดินมคธพระเจ้าอชาตศัตรู เวเทหบิตุร จึงยกทัพไปบุกแคว้นกาสี เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงสดับข่าวก็แต่งทัพออกไปป้องกันเขตแดนเมื่อทำสงครามกัน ปรากฏผลว่าฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศลเป็นผู้ปราชัยก็เสด็จล่าทัพกลับกรุงสาวัตถีราชธานีของพระองค์
เวลาเช้าภิกษุเป็นจำนวนมากเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถีแล้วทราบข่าว ได้กลับมากราบทูลเรื่องราวให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบเหตุการณ์พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตรมีมิตรเลวทราม มีสหายเลวทราม มีพระทัยน้อมไปในคนเลวทราม ดูก่อนภิกษุทั้งหลายฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศล มีมิตรดีงาม มีสหายดีงาม มีพระทัยน้อมไปในคนดีงาม วันนี้พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงแพ้มาแล้วอย่างนี้จักบรรทมเป็นทุกข์ตลอดราตรีนี้ ”
แล้วได้ตรัสพระคาถาประพันธ์ว่า
“ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์ บุคคลละความชนะและความพ่ายแพ้เสียแล้ว มีใจสงบนอนเป็นสุข”
แต่ในการรบครั้งต่อมาสงครามจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของพระเจ้าอชาตศัตรู ถูกพระเจ้าปเสนทิโกศลจับเป็นเชลยศึกได้ด้วยอุบายการรบ แต่ด้วยความเอ็นดูที่ยังมีต่อหลาน จึงเพียงแต่ยึดพลช้าง พลม้าพลรถ และพลเดินเท้าไว้ แล้วปล่อยตัวกลับไป
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบได้ตรัสพระคาถากับภิกษุทั้งหลายว่า
บุรุษจะแย่งชิงเขาได้สำเร็จก็เพียงชั่วคราวเท่านั้นแต่เมื่อใดถูกคนเหล่าอื่นแย่งชิงกลับ ผู้นั้นย่อมเป็นผู้ถูกแย่งชิง เพราะว่าคนพาลย่อมสำคัญว่าเป็นสุขตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนพาลย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น ผู้ฆ่าย่อมได้รับการฆ่าตอบผู้ชนะย่อมได้รับการชนะตอบ ผู้ด่าย่อมได้รับการด่าตอบและผู้โกรธย่อมได้รับความโกรธตอบ ฉะนั้น เพราะความหมุนกลับแห่งกรรม ผู้แย่งชิงนั้นย่อมถูกเขาแย่งชิงเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้เห็นว่าความแพ้ความชนะที่เกิดจากการสาดใส่กิเลสเข้าหากันรังแต่นำมาซึ่งความทุกข์ เป็นความพ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย ผู้ชนะย่อมก่อเวร ถูกจองเวร ผู้แพ้ก็เสียใจนอนเป็นทุกข์และหาทางแก้แค้นกลับคืน ฉะนั้นพึงเป็น ผู้ชนะด้วยความดีเถิด เพราะความเป็นผู้ชนะที่แท้จริงย่อมเกิดได้ด้วยความดีเท่านั้น
ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนว่า อกฺโกเธน ชิเน โกธํ อสาธุํ สาธุนา ชิเน ชิเนกทริยํ ทาเนน สจฺเจนาลิกวาทินํ
“พึงชนะคนโกรธด้วยความไม่โกรธ พึงชนะคนไม่ดี ด้วยความดี พึงชนะคนตระหนี่ ด้วยการให้พึงชนะคนพูดเหลวไหล ด้วยคำจริง”
ขอขอบคุณ : บทความดีจากหนังสือ แรงบันดาลใจ จากพระไตรปิฏก