สรรพากรแปะใบประเมินภาษี ดร.ทักษิณ ชินวัตร 1.7 หมื่นล้านบาท หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า
กรมสรรพากรเขตบางพลัด ได้นำหนังสือการประเมินภาษี พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มจากการขายหุ้น ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 329.2 ล้านหุ้น ให้กลุ่มเทมาเส็ก เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 เพื่อเรียกเก็บภาษีจากดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี http://winne.ws/n14311
สรรพากรแปะใบประเมินภาษี ดร.ทักษิณ ชินวัตร 1.7 หมื่นล้านบาท หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า หลังไร้ตัวแทนรับทราบการเสียภาษี
ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรเขตบางพลัด ได้นำหนังสือประเมินภาษีเรียกเก็บดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีนายกรัฐมนตรี พร้อมค่าปรับและเงินเพิ่มรวมมูลค่า 17,000 ล้านบาท ไปติดที่หน้าบ้านพักจันทร์ส่องหล้า เลขที่ 472 ถ.จรัญสนิทวงศ์ 69 แขวงและเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่อยู่ของด็อกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่แจ้งไว้ในระบบทะเบียนราษฎรของกระทรวงมหาดไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ สน.บางพลัด ร่วมเป็นพยาน ซึ่งการติดหนังสือประเมินภาษีด็อกเตอร์ทักษิณดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่ต้องประเมินภาษีจากการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 329.2 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2549 ให้กลุ่มเทมาเส็ก ภายใน 10 ปี ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 31 มีนาคม นี้
โดยการติดหนังสือประเมินภาษีดร.ทักษิณ ดังกล่าวเป็นขั้นตอนหลังจากเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้นัดหมายให้ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือตัวแทนผู้รับมอบอำนาจมารับทราบการประเมินภาษี พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มจากการขายหุ้น ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 329.2 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 ให้กลุ่มเทมาเส็ก แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายกลับไม่มีตัวแทนด็อกเตอร์ทักษิณมาแต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อดร.ทักษิณไม่ส่งตัวแทนมารับทราบการประเมินภาษีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ของกรมจึงต้องติดหนังสือประเมินภาษีเพื่อแจ้งให้ดร.ทักษิณรับทราบ
ทั้งนี้หากด็อกเตอร์ทักษิณไม่เห็นด้วยกับการประเมินภาษีของกรมสรรพากร สามารถทำเรื่องยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือแจ้งการประเมินภาษีจากเจ้าพนักงานประเมิน นอกจากนี้หากไม่พอใจผลประเมินยังสามารถอุทธรณ์ต่อศาลภาษีอากรภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์จากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ แต่หากดร.ทักษิณไม่ยื่นอุทธรณ์ตามกำหนด กรมสรรพากรจะดำเนินการเก็บภาษีทันที และหากผู้เสียภาษีไม่มาชำระ กรมสรรพากรจะใช้อำนาจยึดทรัพย์ เช่น เงินฝากและอสังหาริมทรัพย์เพื่อนำมาชำระค่าภาษีให้ครบตามที่เรียกเก็บต่อไป