เทรนด์มาแรง ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในอาเซียน
การท่องเที่ยวในอาเซียนกำลังบูม ด้วยปัจจัยสนับสนุนมากมาย และทุกประเทศในอาเซียนกำลังช่วยเหลือกันในเรื่องนี้ http://winne.ws/n5161
วังเวียง กุ้ยหลินเมืองลาว
มีปัจจัยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในย่านอาเซียนอย่างมากมาย เช่นสภาพแวดล้อมที่มีเสน่ห์ในภูมิภาค การเพิ่มขึ้นของปริมาณนักท่องเที่ยวชนชั้นกลาง ธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำที่กำลังเติบโต การโปรโมตภาพถ่ายแหล่งท่องเที่ยวสู่อินเทอร์เน็ตโดยผู้ประกอบการไม่ต้องมีต้นทุนในการโฆษณา การเติบโตของธุรกิจไมซ์ (MICE) แนวโน้มนักเดินทางวัยเกษียณที่กำลังมาแรง และความนิยมในการเดินทางพักผ่อนควบคู่กับรักษาตัว เป็นต้น
เมื่อปลายเดือน มิ.ย. 2559 ที่ผ่านมา มีการประชุมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของสมาคมอาเซียน ที่เมืองปากเซ ซึ่งมีลาวเป็นเจ้าภาพการประชุมเป็นครั้งแรกในฐานะประธานอาเซียน และไทยกับลาวได้ลงนามในข้อตกลงด้านการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มความสัมพันธ์และการค้าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่ผ่านมา ทางการลาวได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภคและการคมนาคม เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการขยายสนามบินนานาชาติวัดไตมูลค่า 61 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2018 นอกจากนี้ยังเตรียมลงทุนปรับปรุงสนามบินในประเทศอีกหลายแห่ง
ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ถือเป็นธุรกิจใหญ่ในลาว เนื่องจากลาวมีทรัพยากรและสถานที่ที่เอื้ออำนวย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า การปั่นจักรยานตามเขตป่าสงวนและชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนการพายเรือและล่องแก่ง
ชายหาดที่สวยงามที่ภูเก็ต ประเทศไทย
คุณ Raphael Kern ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทนำเที่ยว Diethlem ในลาว ระบุว่า ความท้าทายอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ คือการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับลูกค้าจากแต่ละประเทศ ซึ่งมีความต้องการ ความคาดหวัง และงบประมาณ แตกต่างกันไป
คุณ Kern ชี้ว่าหากเป็นนักท่องเที่ยวจีน ทางบริษัทจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาจีนได้หลายๆ คนไว้คอยบริการ ส่วนชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ชอบช่วยเหลือตัวเอง ขณะที่ชาวยุโรปจะชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบเข้มข้นมากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม คุณ Klaus Schwettmann ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนของบริษัท Green Discovery ชี้ว่า เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ลาวยังคงตามหลังประเภทเพื่อนบ้านในแถบนี้
คุณ Schwettmann บอกว่าไทยได้เปรียบที่มีชายหาดสวยงามมากมาย ส่วนเมียนมาร์ซึ่งมีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ก็กำลังก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งรายใหม่
ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวผู้นี้ระบุว่า รัฐบาลลาวจำเป็นต้องเพิ่มการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากกว่านี้ โดยเฉพาะในด้านการออกนโยบายเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม การปราบปรามปัญหายาเสพติด ตลอดจนการจับกุมบริษัทนำเที่ยวผิดกฎหมายที่ผุดขึ้นมาราวดอกเห็ด
รวมทั้งความกังวลเรื่องการก่อสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง ซึ่งอาจคุกคามต่อแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่า และระบบนิเวศวิทยาในแถบลุ่มแม่นำโขงด้วย
ขอขอบคุณแหล่งข่าว:
http://www.voathai.com/a/laos-thai-eco-tourism/3408909.html
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000068319
ขอขอบคุณภาพจาก: