ปลุกชาวบ้าน ตื่นรู้วิถีพุทธ เข้าวัดทำบุญ ใช้สติปัญญาศรัทธา
สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แจ้งว่าตาม ที่ขอความร่วมมือให้ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมตามโครงการเศรษฐกิจจิตอาสา วิถีธรรมชาติ : วันเสาร์เข้าวัด เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ในการส่งเสริมและสนับสนุนกระตุ้นเศรษฐกิจ http://winne.ws/n27437
โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งคณะสงฆ์ ส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชน จากการประเมินการมีส่วนร่วมกิจกรรมร่วมกัน สร้างแหล่งเรียนรู้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธ โดยวัดเป็นศูนย์กลางจัดกิจกรรม ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
“เพราะกิจกรรมสร้างแหล่งเรียนรู้ มีเด็ก ๆ เยาวชน ตลอดจนประชาชน มาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น การเข้าวัดฟังธรรม บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เป็นการสร้างความสามัคคีทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ สร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือน เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีเกษตร พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดการหมุนเวียนในชุมชน ทำให้ชาวบ้านใกล้ชิดกับวัดมากยิ่งขึ้น”
นายสิทธา มูลหงส์ รองโฆษก พศ. กล่าวว่ากิจกรรมจะสิ้นสุดกันยายน 2564 เป็นกิจกรรมร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคม ที่ได้รับผลทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีพุทธ เชื่อมโยงถึงสังคมและวัฒนธรรมต่างท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค
ทั้งนี้พระอาจารย์ สอนพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตเชียงใหม่ ระบุถึงกรอบแนวทางที่เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และมหาเถรสมาคม ตลอดจนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เน้นย้ำใน กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีพุทธ
“ต้องยึดหลักธรรมคำสอน สมเด็จพระพุทธเจ้า ในส่วนวัดต้องมีวัตรปฏิบัติที่ไม่ขัดพระธรรมวินัย เน้นการเผยแพร่คำสอนที่ถูกต้อง ไม่ส่อไปทางสร้างความเชื่อ ความงมงาย เชิงพุทธพาณิชย์ และญาติโยม พุทธบริษัท เพียงเข้าถึง รักษา ศีล 5 ก็เป็นมงคลต่อชีวิต ต้องมีสติ ปัญญาตื่นรู้วิถีพุทธที่ถูกต้อง พระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักการที่เรียกว่าหัวใจพระพุทธศาสนาเป็นคำไทยที่เข้าใจง่าย ๆ คือ เว้นชั่ว ทำดี จิตใจผ่องใส ภาษาพระ หรือ ภาษาบาลีว่า “สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานสาสนํ” จริง ๆ แล้ว คนเรามีศีล สมาธิ ปัญญา นับเป็นบุญ เป็นมงคลในชีวิตที่นำสู่ทางหลุดพ้นของความทุกข์ได้”