บทวิเคราะห์แบบเจาะลึก" ถามตรงๆกับจอมขวัญ... ไพบูลย์ นิฯ มั่วนิ่ม?"
อ้างอิงจากรายการ ถามตรงๆ กับจอมขวัญ 7 มี.ค. “พระธัมมชโย ในวันที่ถูกถอดสมณศักดิ์” กับคุณไพบูลย์ นิติตะวัน http://winne.ws/n13823
ไตเติ้ลเข้ารายการ
(ทหารผู้ใหญ่?) จะให้บ้านเมืองวุ่นวายอยู่ขณะนี้ แค่คนๆ เดียว แค่ก้าวออกมา ก็จบแล้ว
ตอบ : ไม่จบหรอกท่าน เพราะเป้าประสงค์ไม่ได้อยู่ที่หลวงพ่อ แต่อยู่ที่ต้องการล้มพระพุทธศาสนา
หลวงพ่อเป็นเพียง "เหยื่อรายแรก" ในเป้าหมายนั้น
ท่านเป็นทหารอาชีพ ถ้าท่าน "ถูกกล่าวหา" ยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมใดๆ
แต่โดนถอดถอนออกจากราชการ ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีเงินเดือน กลายมาเป็น "ตาแก่" ธรรมดาคนหนึ่ง ท่านจะสู้ไหม?
(ไพบูลย์) ถามว่าจะเอาความเชื่อมาอยู่เหนือกฎหมาย?
ตอบ : พวกเราไม่มีใครนำความเชื่อมาอยู่เหนือกฎหมาย พวกเราปฏิบัติตามกฎหมายด้วยดีมาตลอด "ถ้าผู้ใช้กฎหมายนั้นมีความยุติธรรม ไม่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว"
(ท่านประวิตร) ท่านบอกว่าท่านไม่ผิด ท่านก็ต้องออกมา ให้ศาลเป็นคนดำเนินการ เขามีกระบวนการยุติธรรมอยู่ ก็ไปเข้าซะ ก็อยู่ที่ท่านน่ะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องศรัทธา ไม่ศรัทธา คนละเรื่องกันนะ
ตอบ : "ก็เข้าไปซะ!!!!!" เข้าไปไหน? เข้าคุก? ถูกถอดผ้าเหลืองเหมือนพระพิมลธรรม? ถูกฆ่าตายในคุก?
รัฐบาลทหารยุคนี้ "ผู้ถูกกล่าวหา" ตายได้ง่ายมาก
เช่น dsi. มาป่าวประกาศ "คนถูกฝากขังใน dsi. ตาย เพราะถุงเท้า"???
ถ้าเป็นท่านประวิตร ท่านจะเข้าไหม? ใครเข้าก็บ้า!!!!!
ไพบูลย์ชี้นำ มีธงในใจอยู่แล้วและพยายามทำไปตามธงนั้น โดยเอาสีข้างเข้าถู และพูดความจริงไม่หมด
การพูดความจริงไม่หมด และการชี้นำไปตามธงของตน เป็นลักษณะเฉพาะของไพบูลย์
ทำให้ผู้คนสับสนได้ เช่น พูดเรื่องพระยันตระ ถูกดำเนินคดีโดย มส. ใช้ฉบับที่ 21 มาตัดสินพระยันตระให้สึก
โดยไม่ใช้ฉบับที่ 11 ซึ่งถ้าใช้ฉบับนี้ ต้องรอการพิจารณาของศาลชั้นต้น ทางโลกก่อน
พูดความจริงไม่หมดคือ ไม่พูดว่า "พระยันตระท่านบริสุทธิ์"
ก่อนตาย นางจันทิมา เขียนจดหมายรับสารภาพว่า "รับจ้างมาใส่ร้ายพระยันตระ"
นั่นคือ ท่านถูกสั่งให้สึกฟรี ท่านไม่ได้มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ถูกใส่ร้ายใดๆ ทั้งสิ้น
มาตรา 21 ที่นำมาใช้กับพระยันตระ จึงเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
การคณะสงฆ์ พระเดชพระคุณเจ้าคณะผู้ปกครอง มีเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค เป็นต้น
ท่านเป็นพระราชาคณะ ทรงภูมิรู้ ภูมิธรรม มากด้วยประสบการณ์ คุณวุฒิ วัยวุฒิ
ท่านไม่มาทำตามที่คุณไพบูลย์พยายามกดดัน ชี้นำ อย่างแน่นอน
พระเดชพระคุณท่านรอจังหวะเวลา ให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ขณะเดียวกัน ท่านก็สืบค้น สืบหาข้อมูลไปเรื่อยๆ รวมถึงข้อมูลของคุณไพบูลย์ด้วย
ว่าที่คุณไพบูลย์ออกมาร้องแรกแหกกระเชอ มีความเห็นผิด เห็นถูกเป็นผิด เห็นผิดเป็นชอบนั้น คุณไพบูลย์ไปฝึกฝน ไปมีความเคารพเลื่อมใสมาจากที่ใด?
อืม... สำนักกินผักที่ประกาศตนเป็นอรหันต์ใช่หรือไม่ ที่คุณไพบูลย์นับถือสุดลิ่มทิ่มประตู
ถ้าหลวงพ่อผิดพระธรรมวินัยจริง ไม่ต้องรอให้เจ้าคณะผู้ปกครองตัดสิน
พระภิกษุ ศิษยานุศิษย์ ของหลวงพ่อ จะไม่ยอมให้ผิดพระธรรมวินัยแน่นอน
จะต้องออกมาป่าวประกาศ แจ้งต่อสาธารณชน ก่อนที่คุณไพบูลย์หรือสื่อต่างๆ จะมาเปิดเผยเป็นแน่
แต่หลวงพ่อ เปรียบเสมือนมือท่านไม่มีบาดแผล นำไปจุ่มในยาพิษได้ พิษไม่เข้า
นั่นคือ หลวงพ่อไม่ได้ทำผิดศีล ไม่ได้ทำผิดพระธรรมวินัย ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
ถ้าผิดสักนิด ทั้งหลวงพ่อ ทั้งวัด เจ๊งไปนานแล้ว ไม่รอมาถึงวันนี้ วัดสร้างมา 48 ปี
พอพิสูจน์ทราบว่า พระยันตระท่านบริสุทธิ์ ถูกทำร้าย ถูกใส่ความ
เกิดผลเสียอย่างมากมายมหาศาลในพระพุทธศาสนาในไทยและทั่วโลก
คุณไพบูลย์ตายแล้วเกิดอีก 500 ชาติ ก็ชดเชยตรงนี้ไม่ได้
ดูความเจ้าเล่ห์ เพทุบาย พูดความจริงไม่หมด ตัดตอนเฉพาะที่จะเอื้อประโยชน์ให้ตน
ทำให้ผู้คนสับสน ตรองตามไม่ทันมาพูด
(ไพบูลย์ : "ก็ตามกฎ ฉบับที่ 11 นี่มันมีกระบวนการพิจารณาของศาลชั้นต้น เขาออกฉบับที่ 21 มาเพื่อแก้ปัญหาว่า ดำเนินการไม่ได้ เขาก็ให้ทางรัฐเลยขึ้นมาที่ มส. แล้วมาตัดสินเลย
อย่างกรณีพระยันตระเนี่ย ถ้าใช้กระบวนการธรรมดานี่ไปไม่ได้ ไม่สามารถที่จะจัดการ ดำเนินการให้พ้นจากการเป็นพระได้ เลยมีฉบับนี้ขึ้นมา ที่ผมกำลังเรียนนี่เป็นเรื่องของกฎหมาย จะแยกว่าเป็นเรื่องพระธรรมวินัย หรือเรื่องกฎหมาย เพราะถ้าจะสั่งห้ามว่าต้องให้คดีทางโลกจบก่อนแล้วค่อยไปคดีพระธรรมวินัยถึงพิจารณา อันนั้นเป็นเรื่องกฎหมายเขียนไว้ แล้วอันนี้ กฎหมายฉบับนี้เขียนว่าไม่ต้องรอ")
เจ้าคณะผู้ปกครองท่านนิ่งเงียบสงบ สยบความเคลื่อนไหว ประเสริฐแล้ว
ถ้าจะใช้ ก็ใช้ตามกฎ ฉบับที่ 11 จะเป็นอะไร?
คดีทางโลกที่ของหลวงพ่อถูกกล่าวหามีอายุความ 15 ปี
คุณไพบูลย์กลัวจะตายก่อน กลัวอยู่ไม่ทันดูความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อ?
ให้คุณไพบูลย์ขยันหายใจเข้าไว้ ขยันหายใจไปด้วยกัน
อย่าพึ่งรีบตายก่อน
รอดูเมื่อความจริงปรากฏ กลับเนื้อกลับตัวใหม่
ให้กลับใจได้เร็วกว่าพระเทวทัต ที่ต้องถวายกระดูกคางเป็นพุทธบูชา ตอนถูกธรณีสูบ
เรื่องพระลิขิตก็เช่นกัน
มุขตลกเดิม พูดความจริงไม่หมด
เขาทราบกันทั้งประเทศแล้วว่าช่วงสมเด็จฯ ท่านทรงพระประชวร มีพระลิขิตปลอมเกิดขึ้นเยอะมาก ด้วยพิษ "ห้องกระจก"
การจะโจทย์ภิกษุอื่นด้วยอาบัติปาราชิกไม่มีมูล มีโทษหนักถึงขั้นสังฆาทิเสส เปรียบเทียบเหมือนถูกจำคุก
ยิ่งกว่านั้น สมเด็จพระสังฆราชท่านสังกัดธรรมยุตินิกาย พระมหาเถระผู้ใหญ่ในมหานิกายมีมากมาย สมเด็จฯ ท่านไม่มาโจทก์ข้ามนิกาย (การโจทก์ข้ามนิกาย พระภิกษุเขาไม่ประพฤติ
เป็นเรื่องไม่เคยมีมาก่อนในพระพุทธศาสนาในประเทศไทยและในโลก)
ประเด็นพระลิขิตปลอม พระมหาเถระผู้ใหญ่ทั่วสังฆมณฑลท่านเงียบ เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียพระเกียรติ
แต่คุณไพบูลย์และผู้ไม่รู้ทั้งหลาย มีนายมะนาว จอมเนรคุณ เป็นต้น ก็นำมาอ้างซ้ำๆ ซากๆ
ให้เสื่อมเสียพระเกียรติ เพื่อวัตถุประสงค์ใด? เพื่อทำลายพระพุทธศาสนาแล้วยกเอาความเชื่อของตนขึ้นมาใช่ไหม?
เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ถามคุณอาคม เอ่งฉ้วน รตม.ช่วย ว่าการกระทรวงศึกษา ในสมัยนั้นได้
ที่มาออกรายการโทรทัศน์กับ อ.เสถียรพงษ์ วรรณปก
ทั้ง 2 ท่านยังมีชีวิตอยู่
คุณอาคมเล่าในรายการว่า ได้รับโทรศัพท์ฝากให้ท่านหนึ่งเข้าทำงานในตำแหน่งสูงพอสมควร
โดย "ห้องกระจก" วัดบวรฯ เป็นผู้ต่อสายให้สนทนา กราบเท้าสมเด็จฯ ทางโทรศัพท์
สมเด็จฯ ท่านไม่สามารถสนทนาโต้ตอบ สอบถามสารทุกข์สุขดิบอะไรได้เลย
ท่านพูด เหมือนอ่านหนังสือ อ่านข้อความที่มีคนเขียนบทให้ไปเรื่อยๆ ไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรใดๆ ทั้งสิ้น
คุณอาคมยังกล่าวเตือน อ.เสถียรพงษ์ในรายการถ่ายทอดสดว่า "อาจารย์เป็นอาจารย์ อาจารย์จะมาชักเข้า ชักออก อย่างนี้ได้อย่างไร"
(สามารถถามหาเทปโทรทัศน์รายการนั้นได้)
เรื่องอวดอุตริมนุสธรรม คือ ธรรมอันยิ่งที่ไม่มีในตน เป็นอาบัติหนัก
แต่ถ้าคุณวิเศษนั้นตนมีจริง แล้วแสดง เป็นอาบัติปาจิตตีย์ (ไม่ใช่อาบัติหนัก)
ถ้าเข้าใจผิดว่าตนมีคุณวิเศษ แล้วอวด, แสดง ก็อาบัติปาจิตตีย์
หลวงพ่อไม่ได้อวดอุตริมนุสธรรม
อวดไปเพื่ออะไร?
"ไม่มี อยากอวด มีจริง ไม่อวด"
อย่าลืม คุณยายฯ อาจารย์มหารัตนะอุบาสิกาจันทน์ ขนนกยูง ผู้ให้กำเนิดวัดพระธารมกาย
กล่าวไว้ว่า
"สมาธิ วิชชาธรรมกายที่ท่านเรียนมาจากหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านถ่ายทอดให้หลวงพ่อหมดแล้ว ต่อจากนี้เป็นหน้าที่ ที่หลวงพ่อต้องค้นต่อไปเอง"
หลวงปู่สด กล่าวยืนยัน ท่ามกลางพระภิกษุ อุบาสิกาแม่ชี ในโรงงานทำวิชชา ที่วัดปากน้ำ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พึ่งสงบว่า "ลูกจันทน์นี้ เป็น 1 ไม่มี 2"
ผู้ที่ฝึกสมาธิได้ดีมาก ท่านไม่สนใจเรื่องอวด ไม่อวด อะไรนั่นแล้ว
ท่านเลยขั้นตอนนี้ไปไกลมากแล้ว
ฟ้องว่าผู้กล่าวหา ไม่ได้ฝึกสมาธิ, ถ้าฝึกหรือเคยฝึก สมาธิก็ไม่ก้าวหน้า ไม่ได้รับผลการปฏิบัติที่ดี
เหตุหนึ่งที่ไม่ก้าวหน้า เพราะจิตเป็นอกุศล ลามก เช่นนี้ เป็นตัวขวางไม่ให้สมาธิก้าวหน้านั่นเอง
สุดท้าย อย่าไปเชื่อ ถ้าจับสึกหลวงพ่อแล้ว ไพบูลย์บอกว่า จะเปลี่ยนผู้บริหารวัดไม่เกิน 5 คน
แถมมีคำทุเรศทุรังออกมาอีกว่า "...อาจจะนะ..."
อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่
ชาววัดพระธรรมกายเขาฉลาดกว่าคุณ มาวัด IQ, EQ ได้เลย
แก่ หัวหงอกแล้ว อยู่รอความตายอย่างเงียบๆ สงบปากสงบคำเถอะ อย่าสร้างบาปมากกว่านี้
อย่าให้รุ่นลูก รุ่นหลานต้องมาสอน มาสั่งเลย
พวกนี้ไม่ค่อยขุ่นมัว
จะมุ่งตะบี้ตะบัน ดันทุรังเสนอความคิดตามธงที่ตนเองและกลุ่มของตนได้ตั้งไว้
(ไพบูลย์ : "...ปัญหาของวัดพระธรรมกายผมยังเรียกร้องนะว่า คงไม่ต้องไปเปลี่ยนชื่อ ยังคงตั้งอยู่ตรงนั้น แต่คงเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติ การสอน หรือเปลี่ยนผู้บริหารเท่านั้น แต่ทุกอย่างยังคงเป็นศาสนสมบัติ ลูกศิษย์ยังคงอยู่ในวัด พระที่อยู่ในวัดยังอยู่หมด แต่อาจจะเปลี่ยนผู้บริหารไม่เกิน 5 คนเท่านั้นแหละ อาจจะนะ...")
Cr. I ไม่กลัว u