พึงเมตตาต่อผู้ไร้เมตตา เพราะเขาต้องการสิ่งนี้มากที่สุด
แม้ความเมตตาไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายนัก แต่หากทำได้ จิตวิญญาณของคุณจะเกิดการพลิกผันจนสุดขั้ว คุณจะเกิดใหม่โดยไม่ต้องมีความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง คุณจะกลายเป็นผู้ไม่รู้จักความทุกข์ เป็นผู้เข้าถึงความสุข ที่อยู่เหนือบทกวีใดจะเอื้อนเอ่ย... http://winne.ws/n13772
ทุกครั้งที่คุณเสียเปรียบ
จงคิดว่า คุณกำลังฝึกฝนความเมตตาอยู่
ผู้คนมากมายพูดถึงความเมตตาว่าความเมตตาคือสิ่งจำเป็น
เราพูดกันอย่างนี้เสมอ
เป็นสิ่งที่แม้แต่เด็กประถมก็ยังรู้
ไม่ต้องใช้ความฉลาดอะไรใครๆก็รู้ว่าความเมตตาคือสิ่งจำเป็น
ทว่า คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยที่จะพูดกันในแง่มุมที่ว่า
ความเมตตาไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ
เมื่อเราเสียเงินเพราะถูกหลอก
ไม่ง่ายเลยที่เราจะเมตตาให้อภัยผู้ที่หลอกลวงเรา
เมื่อเรากำลังหิว กำลังอด เงินทองกำลังขาดมือ
ไม่ง่ายเลยที่เราจะรู้จักแบ่งปัน
เหล่านี้เป็นความจริงที่ทุกคนต้องยอมรับ
ไม่ใช่ยอมรับเพื่อจำนน
แต่เป็นการยอมรับเพื่อปรับปรุงแก้ไข
ความเมตตานั้นเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน
ไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากลุกขึ้นมาทำก็ทำได้
ไม่อย่างนั้นเราคงมีนักบุญอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง
และโลกก็คงไม่วุ่นวายอย่างทุกวันนี้
ดังนั้นในชีวิตประจำวันของเรา
เราจำเป็นต้องเชื่อมโยงทุกสิ่งกับความเมตตาของเรา
เดินด้วยความเมตตา ยืนด้วยความเมตตา
นั่งด้วยความเมตตา และหลับตาลงไปพร้อมความเมตตา
เราต้องฝึกให้เราเป็นผู้ที่ยิ้มให้โลกอยู่เสมอ
ต้องทำให้ตัวเองมีสายตาอันอ่อนโยน
ดุจดังดอกไม้ผู้เป็นมิตรกับผีเสื้อ
ดอกไม้ไม่เคยโกรธผีเสื้อ
แม้ว่าผีเสื้อกำลังดูดกินน้ำหวานจากเกสรของมันอยู่
ดอกไม้ไม่เคยคิดว่าผีเสื้อกำลังเอาเปรียบ
แต่มันคิดว่าสิ่งนี้คือการแบ่งปัน
มันมีความเมตตาให้ผีเสื้อ
ความคิดเช่นนี้เองที่ทำให้ดอกไม้มีความสุข
ทั้งที่มันต้องเสียน้ำหวานให้ผีเสื้อ
ดังนั้นเราจงเอาอย่างดอกไม้ที่กระทำต่อผีเสื้อ
คุณจำเป็นต้องฝึกรักผู้ที่เกลียดคุณ
ฝึกเห็นใจผู้ที่เอาเปรียบคุณ
นอกจากนี้ทุกครั้งที่คุณเสียสตางค์
คุณควรคิดว่าคือว่าคุณกำลังเป็นผู้ให้
คุณจำเป็นต้องหัดให้เงินเกินกว่ามูลค่าสิ่งของที่คุณซื้อ
เพื่อซื้อจิตวิญญาณแห่งความเมตตาของคุณกลับมา
อย่าเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว
แต่จงเป็นผู้ที่ให้อยู่เสมอ ให้เท่าที่คุณจะให้ได้
คุณจำเป็นต้องมีความยินดีต่อความเสียเปรียบให้บ่อย
เพื่อขยับขยายจิตวิญญาณของคุณให้กว้างขวาง
ถ้าคุณเป็นคนที่เรียกร้องสิทธิของตนเองอยู่ตลอดเวลา
เป็นคนที่ยอมเสียเปรียบไม่ได้
คุณจะกลายเป็นคนที่จิตใจคับแคบ
แม้คุณจะมีเหตุผลอันชอบธรรมที่จะไม่ให้
แต่ใจของคุณก็จะคับแคบ
คุณต้องรู้ว่า
เมื่อพูดถึงภาวะของจิตใจเราจะไม่พูดถึงเหตุผล
เพราะเหตุผลเป็นของหยาบที่ไม่สามารถเข้าสู่จิตใจได้
จิตใจเป็นเรื่องของความรู้สึก
ส่วนเหตุผลเป็นเรื่องของตรรกะ
ตรรกะนี่เองคือเครื่องมือที่อัตตาตัวตนชอบใช้
เพื่อนำคุณไปสู่การหนทางแห่งความเห็นแก่ตัว
คุณจะกลายเป็นผู้ที่ถูกต้องแต่ไม่มีความสุข
เป็นผู้ชนะสงครามที่มีแต่ความทุกข์
ความเสียเปรียบ การแกล้งโง่นั้น
เป็นสิ่งจำเป็นมากที่จะทำให้ความเมตตาเกิดขึ้น
คุณต้องยอมโง่
ต้องยอมเสียเปรียบ นี่เองคือสิ่งที่คุณต้องตระหนัก
จากนั้นจึงค่อยๆ
เพิ่มขอบเขตของความเมตตาของคุณให้มากขึ้นเป็นลำดับ
ยอมถูกเอาเปรียบด้วยความเบิกบานให้มากขึ้นเป็นลำดับ
จนนำไปสู่จิตใจของผู้เป็นนักบุญ ผู้เสียสละ
ถึงตอนนั้นความสุขของคุณจะเพิ่มขึ้น
โดยไม่ยึดโยงกับวัตถุจอมปลอม
คุณจะมีความสมบูรณ์ในด้วยเองด้วยความเมตตา
ความเมตตานี้เองจะช่วยให้คุณบรรลุธรรมได้โดยง่าย
เพราะมันนำไปสู่จิตของอริยบุคคลในขั้นต่างๆ
คุณจะไม่มีโอกาสเข้าถึงความจริงสูงสุด
หากจิตใจของคุณมีเมตตาน้อยเกินไป
แม้ความเมตตาไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายนัก
แต่หากทำได้ จิตวิญญาณของคุณจะเกิดการพลิกผันจนสุดขั้ว
คุณจะเกิดใหม่โดยไม่ต้องมีความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง
คุณจะกลายเป็นผู้ไม่รู้จักความทุกข์
เป็นผู้เข้าถึงความสุข
ที่อยู่เหนือบทกวีใดจะเอื้อนเอ่ย...
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
บทความ ดอกไม้กับผีเสื้อ (พศิน อินทรวงค์)