เวลามีแขกแก้วมาเยือนเฮือนชาวไทยภาคเหนือ สำรับอาหารสำคัญที่ใช้รับรองคือการจัดเลี้ยงขันโตก โดยนำอาหารเมือง (อาหารเหนือ) รายการต่าง ๆ จัดลงบนภาชนะไม้คล้ายถาดทรงกลมมีขายกสูง เรียกว่า “ขันโตก” ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยน้ำพริกแบบภาคเหนือ เช่น น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม พร้อมด้วยเครื่องจิ้มผักเคียงทั้งผักนึ่งชนิดต่าง ๆ ผักสดพื้นบ้าน แคบหมู ไส้อั่ว นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นเมืองภาคเหนือหลากหลายชนิด เช่น แกงฮังเล แกงแค ลาบคั่ว ห่อนึ่ง แอ๊บ ฯลฯ

ซึ่งเมนูที่อร่อยและดีต่อสุขภาพอย่างยิ่งยวดเห็นจะเป็นแกงแค เพราะอุดมด้วยผักพื้นบ้านหลากชนิดมาแกงกับเนื้อสัตว์ แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือ “ผักเผ็ด” หรือผักคราดหัวแหวน ที่จะให้กลิ่นหอมและรสเผ็ดปร่าซ่าลิ้น เป็นกลิ่นเฉพาะของแกงชนิดนี้ แถมผักเผ็ดนี้ยังมีสรรพคุณคล้ายยาชาและยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก จึงช่วยบรรเทาอาการปวดฟันและลดโรคในปากในลำคอได้ดีอีกด้วย มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นน้ำลาย ทำให้เจริญอาหาร ซึ่งสำรับที่นำเสนอไว้นี้จะนำปลานิลมาปรุง ทำให้แกงแคถ้วยนี้ดีต่อสุขภาพและอร่อยชวนลิ้มลองยิ่งขึ้นไปอีก กินคู่กับข้าวนึ่ง (ภาษาเหนือหมายถึงข้าวเหนียว) เคียงกับอาหารชนิดอื่น ๆ บนขันโตกแล้ว รับประกันว่าผู้ชิมจะต้องพึงใจในความลำแต๊ลำว่าของอาหารเมืองอย่างแน่นอน

แกงแคปลานิล

ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) เตรียม 30 นาที ปรุง 15 นาที

         >เนื้อปลานิลหั่นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย

         >ผักแค 2 ถ้วย

         >น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ

          >น้ำเปล่า 4 ถ้วย

           >พริกแกงแคปริมาณตามที่ระบุไว้

ส่วนผสมพริกแกง

            >พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด

            >กระเทียมกลีบเล็ก 10 กลีบ

             >หอมเล็ก 5 หัว

              >ข่าซอย 1 ช้อนโต๊ะ

               >ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ

               >กะปิ 1 ช้อนชา

                >ปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ

                 >เกลือ ½ ช้อนชา

วิธีทำ

โขลกพริกแกงรวมกันให้ละเอียด แล้วนำไปผัดกับน้ำมันในหม้อพร้อมด้วยเนื้อปลาจนหอมตักชิ้นปลาขึ้นพักไว้ เติมน้ำลงในหม้อ เร่งไฟขึ้นให้เดือด ใส่ผักแคชนิดต่าง ๆ ลงไป ปิดฝาหม้อรอให้ผักสุก แล้วจึงปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ใส่เนื้อปลาที่พักไว้ลงไปต้ม รอให้ปลาสุกปิดไฟ ตักใส่ถ้วย จัดขึ้นสำรับขันโตก รับประทานกับข้าวนึ่ง

Tips:

หากใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่น เมื่อผัดกับเครื่องแกงแล้วไม่ต้องตักเนื้อสัตว์ขึ้นพัก ให้ใส่ผักปรุงรสและต้มแกงต่อจนเสร็จได้เลยแต่ที่ในสูตรระบุไว้เพราะเนื้อปลาสุกง่าย หากต้มเป็นเวลานานอาจเปื่อยเละไม่น่ารับประทาน

ผักแค คือผักพื้นถิ่นหลากชนิด เช่น ยอดชะอม ใบช้าพลู ถั่วฝักยาวหั่นท่อน มะเขือเปราะหั่นสี่ส่วน เห็ด ถั่วพูหั่นท่อน ใบมะกรูด หอมแย้ฯลฯ แต่ที่สำคัญที่สุดและขาดไม่ได้ก็คือ ผักเผ็ด หรือผักคราดหัวแหวน หากขาดผักชนิดนี้จะไม่ถือว่าเป็นแกงแค

พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 165.94 กิโลแคลอรี
โปรตีน 11.39 กรัม ไขมัน 7.05 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 13.17 กรัม ไฟเบอร์ 2.15 กรัม

ขอบคุณข้อมูลและภาพhttp://www.goodlifeupdate.com/41457/healthy-food/curry-fish/